วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

กลุ่มที่ 8 บี.เอฟ.สกินเนอร์ “ ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ ”


กลุ่มที่ 8
บี.เอฟ.สกินเนอร์
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ





ประวัติ บี.เอฟ.สกินเนอร์
สกินเนอร์  Skinnor ”
- เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ.1940 ที่ มลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
-จบปริญญาตรี ทางวรรณคดี ในอังกฤษ
-เข้าศึกษาต่อสาขาจิตวิทยา ระดับปริญญาโทและเอก ณ มหาวิทยาลัย ฮาร์ดเวิร์ด ปี ค.ศ.1982 วิชาเอกพฤติกรรมศาสตร์

ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ มีชื่อเรียกต่างๆ คือ
-Operant Conditioning theory
-Instrumental Conditioning theory
-Type-R. Conditioning
       
สกินเนอร์  มีความคิดว่าทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคนั้น จำกัดอยู่กับพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนน้อยของมนุษย์ พฤติกรรมส่วนใหญ่แล้วมนุษย์จะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง ไม่ใช่เกิดจากการจับคู่ระหว่างสิ่งเร้าใหม่กับสิ่งเร้าเก่า

สกินเนอร์ ได้เสนอความคิดโดยจำแนกทฤษฎีทางพฤติกรรมออกเป็น  2 ประเภท คือ
1. พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้แบบ Type S -มีสิ่งเร้าเป็นตัวกำหนดหรือดึงออกมา
2. พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้แบบ Type R -พฤติกรรมหรือการตอบสนองขึ้นอยู่กับการเสริมแรง
Skinner ได้สร้างกล่องขึ้นมา มีชื่อเรียกว่า Skinner Box กล่องนี่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมมีคานหรือลิ้นบังคับให้อาหารตกลงมาในจาน เหนือคานจะมีหลอดไฟติดอยู่ เมื่อกดคานไฟจะสว่างและอาหารจะหล่นลงมา Skinner Box นำนกไปใส่ไว้ในกล่อง และโดยบังเอิญนกเคลื่อนไหวไปถูกคานอาหารก็หล่นลงมา
การเสริมแรง(Reinforcement)คือ การทำให้ผู้ทำพฤติกรรมเกิดความพึงพอใจเมื่อทำพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่งแล้ว เพื่อให้ทำพฤติกรรมนั้นซ้ำๆ

การเสริมแรงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.การเสริมแรงทางบวก(Positive Reinforcement )
2.การเสริมแรงทางลบ(Negative Reinforcement)

การเสริมแรงแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
1.การเสริมแรงอย่างต่อเนื่อง(Continuous Reinforcement)
2.การเสริมแรงเป็นครั้งคราว(IntermittentReinforcement)

การกำหนดการเสริมแรงตามเวลา(Iinterval schedule)
1.กำหนดเวลาที่แน่นอน(Fixed Interval Schedules )
2.กำหนดเวลาที่ไม่แน่นอน(Variable Interval Schedules )
กำหนดการเสริมแรงโดยใช้อัตรา(Ratio schedule)
1.กำหนดอัตราที่แน่นอน(Fixed Ratio Schedules )
2.กำหนดอัตราที่ไม่แน่นอน(Variable Ratio Schedules )

การลงโทษ คือ การทำให้อัตราการตอบสนองหรือความถี่ของพฤติกรรมลดลง การลงโทษมี 2 ทางได้แก่
1.การลงโทษทางบวก(Positive Punishment)
2.การลงโทษทางลบ(Negative Punishment)

การนำทฤษฎีการเรียนรู้ของ สกินเนอร์ ไปใช้ในการจัดการศึกษาปฐมวัย
1. การใช้เสริมแรง
2. การปลูกฝังพฤติกรรมบางอย่างและการลดพฤติกรรมบางอย่าง
3. บทเรียนแบบโปรแกรม และเครื่องช่วยสอน

สรุปแนวคิดที่สำคัญของ สกินเนอร์  Skinner
สกินเนอร์ ได้กล่าวไว้ว่า การเสริมแรงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้บุคลแสดงพฤติกรรมซ้ำ และพฤติกรรมของบุคคลส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมแบบเรียนรู้ปฏิบัติและพยายามเน้นว่า การตอบสนองต่อสิ่งเร้าใดๆของบุคคล สิ่งเร้านั้นจะต้องมีสิ่งเสริมแรงอยู่ในตัว หากลดสิ่งเสริมแรงลงเมื่อใด การตอบสนองจะลดลงเมื่อนั้น ’’






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น